นักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่เชียงของซบเซา…
เมื่อวันที่ 12 – 14 มิถุนายนที่ผ่านมา ผู้วิจัยได้มีโอกาสที่ได้ไปลงพื้นที่สำรวจเพื่อเก็บข้อมูลในตัวเมืองตำบลเวียง อำเภอเชียงของ ซึ่งในช่วงนี้หากเปรียบกับฤดูการท่องเที่ยวของเชียงของ ถือว่าค่อนข้างซบเซา (Low season) เนื่องจากเป็นช่วงของฤดูฝน และอากาศก็ร้อนถึงร้อนมาก จึงไม่น่าที่จะได้เห็นนักท่องเที่ยวเข้ามาในอำเภอเชียงของ กระนั้นเอง ผู้วิจัยกลับสังเกตเห็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มใหญ่หนึ่งกลุ่มเข้ามาเดินเตร็ดเตร่ในพื้นที่
การท่องเที่ยวเชียงของซบเซายิ่งนัก
จากการสำรวจพื้นที่เชียงของในช่วงเช้าจนถึงเย็น สภาพเศรษฐกิจโดยรวมไม่ค่อยคึกคัก ผิดกับตอนช่วงปีก่อนในช่วงเวลาเดียวกันที่เคยเดินทางมายังอำเภอเชียงของ จะพบเห็นทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และชาวจีนเดินกันขวักไขว่ เป็นเพราะสภาวะเศรษฐกิจโลก ณ ตอนนี้ ทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติชาวยุโรป และอเมริกันที่เคยเข้ามาก็หดหายไป เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เคยเข้ามาในรูปแบบของคาราวานรถ และทัวร์รถบัสผ่านทางเส้นทาง R3A ก็หายไปเช่นกัน สังเกตได้จากการที่โรงแรมต่างๆที่สร้างมาเพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนก็ดูจะเงียบเหงาไปมาก รถราก็ไม่มีให้เห็นจอดเรียงรายกันอยู่ตามถนน เป็นผลจากการที่รัฐบาลได้ออกกฎระเบียบข้อบังคับที่เข้มงวดต่อการเข้ามาของรถจีน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ทำให้วิถีชีวิตของชาวเชียงของดำเนินต่อไป
นักท่องเที่ยว YOLO!
ปกติแล้วผู้วิจัยจะไม่ได้มีโอกาสได้หาข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาเชียงของ เมื่อพบเห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลุ่มใหญ่อยู่ในร้านอาหารที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกฮอล์รูปแบบที่ทำไว้เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะ จึงเข้าไปเพื่อเก็บเกี่ยวข้อมูลที่น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการส่งเสริมการท่องเที่ยวในอำเภอเชียงของ
จากการสอบถามผู้นำเที่ยว หรือไกด์สาวที่พานักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มหนึ่งมาเที่ยวที่ร้านนี้ พบว่านักท่องเที่ยวที่มาเป็นเหมือนกลุ่มนักศึกษาจบใหม่ ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วง ‘1 ปี ระหว่าง (Gap Year)’ จึงได้ซื้อทัวร์ในรูปแบบที่เรียกว่า Yolo tours (YOLO ย่อมาจากคำว่า You Only Live Once) เป็นทัวร์ที่เปิดรับนักท่องเที่ยวในกลุ่มอายุระหว่าง 18 ถึง 39 ปี ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย ให้ได้ท่องเที่ยวในหลายจุดหมายปลายทางในระยะเวลาอันสั้น ทั้งยังเป็นทัวร์ท่องเที่ยวแบบกลุ่มค่อนข้างเล็ก มากที่สุด 18 คน เฉลี่ยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 12 คน โดยทัวร์นี้มีอยู่ในทั้ง 7 ทวีป ได้แก่ แอฟริกาใต้ โอเชียเนีย อเมริกาเหนือ ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกากลาง เอเชีย และแอฟริกา
ส่วนนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้อยู่ในแผนของทัวร์เอเชีย ราคาของทัวร์ดังกล่าวเฉลี่ยตกอยู่ที่หัวละประมาณ 2,899 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 98,365 บาท ใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมด 30 วัน ทั้งหมด 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม กัมพูชา และสปป.ลาว โดยวันแรกจะเริ่มต้นที่กรุงเทพมหานครของประเทศไทย ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังเสียมเรียบ กรุงพนมเปญ สีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ต่อด้วยเมืองเกิ่นเทอ โฮจิมินห์ ญาจาง ดงนัง ฮอยอัน เว้ ฮาลอง ฮานอย ประเทศเวียดนาม และไปต่อยังเวียงจันทน์ วังเวียง หลวงพระบาง ปากแบง สปป.ลาว ท้ายสุดมาที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ขึ้นเครื่องกลับไปยังจุดเริ่มต้นคือ กรุงเทพฯ
เห็นได้ว่าทัวร์ได้จัดให้อยู่ในประเทศเวียดนามนานสุดถึง 8 วัน รองมาคือ สปป.ลาว 4 วัน กัมพูชา 3 วัน และไทย 3 วัน ‘เชียงของ’ เป็นหนึ่งในจุดหมายที่นักท่องเที่ยวเดินทางด้วยเรือช้า (slow boat) มาจากสปป.ลาวในวันที่ 27 ของแผนการท่องเที่ยว แต่ก็เป็นเพียงแค่ทางผ่านไปยังจุดหมายปลายทางที่แท้จริงอย่างเชียงใหม่เท่านั้น ดังนั้น นักท่องเที่ยวต่างชาติก็จะเพียงแค่ค้างคืนหนึ่ง ท่องยามราตรี ทานอาหารเช้า และนั่งรถต่อไปทำกิจกรรมต่างๆที่เชียงใหม่ ได้แก่ ขึ้นดอยสุเทพ ชมมวยไทย เดินตลาดนัดกลางคืน นวดแผนไทย เรียนทำอาหาร ปั่นจักรยานรอบเมือง โหนสลิงค์เหนือป่า เป็นต้น
ผู้วิจัยมองเห็นว่าเชียงของมีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็นจุดหมายที่สำคัญเช่นเดียวกันเชียงใหม่ ด้วยความที่เชียงของอุดมไปทรัพยากรธรรมชาติ และมีวิถีชีวิตที่ไม่ได้มีความเป็นเมืองเทียบเท่ากับเชียงใหม่ ฉะนั้น เชียงของควรที่จะมีการสร้างกิจกรรมการท่องเที่ยวต่างๆมาเพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยว Gap Year เป็นสำคัญ โดยการสร้างประสบการณ์เอกลักษณ์เฉพาะถิ่น (Local Experience) เฉกเช่นเดียวกันเชียงใหม่
กระแสนักท่องเที่ยวจีนอิสระ
นอกจากนั้น ที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่เรียกว่า ‘FIT’ หรือ ‘Freely Independent Traveler’ เป็นนักท่องเที่ยวที่มีอายุมากกว่า 35 ปี มีรายได้ต่อหัวต่อเดือนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ ชอบที่จะท่องเที่ยวเป็นกลุ่มเล็กๆ หรือท่องเที่ยวแบบเป็นคู่ ไม่สนใจแพ็คเกจทัวร์ หรือติดต่อผ่านตัวกลางการท่องเที่ยว เน้นการท่องเที่ยวด้วยตนเอง เดินทางเอง หาของกินเอง และหากิจกรรมต่างๆทำด้วยตนเอง มีการค้นหาข้อมูลการท่องเที่ยวจากสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook Twitter และอื่นๆ รวมถึงรับรู้ข้อมูลและข่าวสารผ่านคนรู้จัก และกระดานสนทนาในโลกออนไลน์ ใช้รูปแบบการเดินทางที่มีต้นทุนต่ำ
รูปแบบการท่องเที่ยวกระแสใหม่ที่เกิดขึ้นมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มของนักท่องเที่ยวชาวจีนสมัยใหม่ที่มีการศึกษา และรายได้ค่อนข้างสูง ทำให้มีกำลังซื้อที่สูงเช่นกัน ซึ่งจะมีความแตกต่างไปจากกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เคยมาในรูปแบบของทัวร์รถบัสคันใหญ่ จึงเป็นโอกาสของภาคการท่องเที่ยวในอำเภอเชียงของในการที่จะเจาะตลาดของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ นอกเสียจากที่จะต้องสร้างกิจกรรมดึงดูดให้เกิดขึ้นแล้ว ยังต้องมีการเพิ่มทักษะให้กับบุคลากรด้านการท่องเที่ยวในการใช้ภาษาจีน การเปิดให้ชำระสินค้าและบริการผ่านกระเป๋าเงินออนไลน์อย่าง WeChat Pay และ Alipay เป็นต้น
หากเชียงของมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ด้านการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของกระแสการท่องเที่ยวในปัจจุบัน อาจจะทำให้แผนการท่องเที่ยวของทัวร์ต่างๆทั้งไทยและต่างประเทศในอนาคต รวมถึงการเข้ามานักท่องเที่ยวอิสระ มีการปรับเปลี่ยนให้มีการใช้เวลาอยู่ที่เชียงของมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้อย่างมากให้กับคนในท้องถิ่น และทำให้อำเภอเชียงของเป็นมากกว่าแค่ ‘ทางผ่าน’ หรือ ‘ประตู’ ไปสู่พื้นที่อื่น เหมือนที่เคยเป็นมา
อ้างอิง
GAdventures. (ม.ม.ป.). Indochina Discovery. ค้นหาจาก https://www.gadventures.com/trips/indochina-discovery/4653/itinerary.
กองกลยุทธ์การตลาด ททท. (2559). ท่องเที่ยวไทยในปี 2560 Thailand as a preferred destination. ค้นหาจากhttp://www.tatreviewmagazine.com/web/menu-read-tat/menu-2016/menu-42016/745-42016-th2560.
Pual Gill. (2554). What Is ‘YOLO’? What Does ‘#YOLO’ Mean?. ค้นหาจาก https://www.lifewire.com/what-is-yolo-2483721.
Gadling. (2553). Travel Trends: The rise of the ‘Free Independent Traveler’ (FIT). ค้นหาจากhttp://gadling.com/2010/05/12/travel-trends-free-independent-traveler-fit/
ประชาชาติธุรกิจ. (2560). “หนีห่าว มาร์เก็ตติ้ง” เคล็ดลับมัดใจนักท่องเที่ยวจีนรุ่นใหม่. ค้นหาจาก http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1494674177