การปรับตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในอำเภอเชียงแสนกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ และผลกระทบจากการเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษบ้านต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้วในฝั่งลาว

img-2703-1200

อำเภอเชียงแสนเป็นอำเภอที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นโบราณสถานที่เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งเรียงรายอยู่ในละแวกทั้งเขตในเมืองและนอกเมืองมีมากกว่า 100 วัด และยังมีทะเลสาบเชียงแสนที่เป็นจุดแหล่งดูนกต่างๆถึง 79 ชนิด แต่ที่เป็นจุดสนใจของเหล่านักท่องเที่ยว และนักลงทุนจากทุกสารทิศคือ ดินแดนสามเหลี่ยมทองคำหรือ สบรวกที่เป็นพื้นรอยต่อระหว่างสามประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย (จังหวัดเชียงราย) สปป.ลาว (แขวงบ่อแก้ว) และประเทศพม่า (แขวงท่าขี้เหล็ก, รัฐฉาน) โดยมีแม่น้ำโขงที่เป็นแม่น้ำสายใหญ่ตัดผ่านเป็นเส้นแบ่งเขตชายแดนที่มาบรรจบกัน

แต่เดิมนั้นพื้นที่ตรงนี้เคยเป็นพื้นที่ที่เคยปลูกฝิ่นและเป็นแหล่งผลิตยาเสพติดแหล่งใหญ่ ปัจจุบันเหลือไว้เพียงพิพิธภัณฑ์ฝิ่นให้ผู้คนมาศึกษาความเป็นไป ทำให้เชียงแสนเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติจำนวนมาก ทั้งนี้ ทางการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงรายก็ได้มีแผนงานในการพัฒนาโบราณสถาน อารยธรรมล้านนา และเมืองเก่าในอำเภอเชียงแสนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมยังถูกกำหนดให้อยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมฉบับที่ 10 อีกด้วย

ฉะนั้น ทางอำเภอเชียงแสนจะต้องเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อพัฒนาให้เป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญในทั้งด้านการค้า การบริการ และการท่องเที่ยว พร้อมทั้งกระตุ้นให้ภาคเอกชนตื่นตัวกับปัจจัยภายนอกที่จะส่งผลกระทบไม่ว่าจะเป็นทางลบ หรือทางบวก และพร้อมที่จะปรับตัวให้เท่าทัน และลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ การเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ผลกระทบจากการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษในฝั่งลาว การปรับตัวของภาคเอกชน และนโยบายที่จะถูกนำเสนอในอนาคต เพื่อให้มองเห็นภาพรวม และสถานการณ์ปัจจุบันของการท่องเที่ยวในเชียงแสนก่อนที่จะถูกนำไปเสนอแนะเป็นนโยบาย

ขอบคุณรูปภาพจาก

อำเภอเชียงแสน

 

Share via
Copy link
Powered by Social Snap