การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์เรื่องการใช้คำนำหน้านามภาษาอังกฤษของนักเรียนไทยที่เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศ โดยใช้การศึกษาเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างได้จากการสุ่มแบบง่าย จากนักรียนจำนวน 250 คน ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ประถมศึกษาปีที่ 6 มัธยมศึกษาปีที่ 3 มัธยมศึกษาปีที่ 6 และนักเรียนระดับชั้นมหาวิทยาลัยปีที่ 3 จำนวนชั้นละ 50 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ แบบทดสอบจำนวน 30 ข้อ แบ่งออกเป็น คำนำหน้านามไม่ชี้เฉพาะ (Indefinite Article) จำนวน 10 ข้อ คำนำหน้านามชี้เฉพาะ (Definite Article) จำนวน 10 ข้อ และการไม่ใช้คำนำหน้านาม (Zero Article) จำนวน 10 ข้อ
ผลการศึกษาพบว่า ข้อผิดพลาดของคำนำหน้านามประเภทไม่ชี้เฉพาะที่พบมากที่สุดคือ การใช้คำนำหน้านามชี้เฉพาะแทนที่คำนำหน้านามไม่ชี้เฉพาะ ซึ่งพบมากที่สุดในนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 คิดเป็นร้อยละ 50.98ข้อผิดพลาดของคำนำหน้านามประเภทชี้เฉพาะที่พบมากที่สุดคือ การใช้คำนำหน้านามไม่ชี้เฉพาะแทนที่คำนำหน้านามชี้เฉพาะพบมากที่สุดในนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 คิดเป็นร้อยละ 71.88 และข้อผิดพลาดของคำนามประเภทไม่เติมคำนำหน้านามที่พบมากที่สุดคือ การใช้คำนำหน้านามไม่ชี้เฉพาะแทนที่คำนามที่ไม่ต้องการคำนำหน้าใดๆ พบมากที่สุดในนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 คิดเป็นร้อยละ 77.67 ทั้งนี้ ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากนักเรียนไทยที่เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศเป็นผลมาจากการที่ระบบภาษาไทยไม่มีรูปแบบการใช้คำนำหน้านามอย่างในระบบภาษาอังกฤษ จึงทำให้เกิดการปะปนกันระหว่างภาษาแม่และภาษาเป้าหมาย นอกจากนี้ ระดับสมรรถนะทางภาษา สิ่งแวดล้อม ความซับซ้อนของบทเรียน การไม่รู้กฎการใช้ หรือการละเลยกฎเกณฑ์ตลอดจนข้อยกเว้นต่างๆ ก็มีส่วนสำคัญ ในการสร้างความสับสน และเกิดเป็นข้อผิดพลาดที่พบได้ในนักเรียนไทยที่เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศ